Hack password facebook,Hack Twitter

วันพุธที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2558

"ชัยชนะที่สมบูรณ์แบบของ CR7"

FIFA Ballon d’Or 2014 : ชัยชนะที่สมบูรณ์แบบของ CR7

14 ม.ค. 58 09.11 น. | |

Hot Score

Hot Score

เสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้วสำหรับการประกาศรางวัล “ฟีฟ่า บัลลง ดอร์ 2014" สุดยอดรางวัลที่นักฟุตบอลทั้งโลกต่างปรารถนา โดยมีการจัดงานกาลาขึ้นที่หอประชุมครองเกรสส์เฮาส์ ในกรุงซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเหล่าคนดังในวงการลูกหนังทั่วโลกต่างเดินทางมาร่วมงานกันอย่างคับคั่งเหมือนเช่นเคย

FIFA Ballon d’Or 2014 : ชัยชนะที่สมบูรณ์แบบของ CR7

เสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้วสำหรับการประกาศรางวัล “ฟีฟ่า บัลลง ดอร์ 2014” สุดยอดรางวัลที่นักฟุตบอลทั้งโลกต่างปรารถนา โดยมีการจัดงานกาลาขึ้นที่หอประชุมครองเกรสส์เฮาส์ ในกรุงซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเหล่าคนดังในวงการลูกหนังทั่วโลกต่างเดินทางมาร่วมงานกันอย่างคับคั่งเหมือนเช่นเคย

ในงานมีการประกาศรางวัลมากมายครับ แต่รางวัลที่เป็น “พระเอก” คือ “บัลลงดอร์” หรือลูกฟุตบอลทองคำ โดยปีนี้ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลได้แก่ คริสติอาโน่ โรนัลโด้, ลิโอเนล เมสซี่ และ มานูเอล นอยเออร์ ซึ่งเป็น 3 นักเตะที่ได้รับการยอมรับสูงสุดในผลงานรอบปี 2014 ที่ผ่านมา

โดยเฉพาะคู่ โรนัลโด้ และ เมสซี่ ที่ยังคงแข่งกันต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 ซึ่งปีที่ผ่านมาต่างทำผลงานส่วนตัวกันได้น่าประทับใจ มีสถิติการทำประตูที่มหัศจรรย์ แต่ โรนัลโด้ นั้นประสบความสำเร็จมากกว่าในระดับสโมสรจากถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ, ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ขณะที่ เมสซี่ ดีที่สุดคือการพาทีมชาติอาร์เจนติน่า เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกเท่านั้น

ด้าน นอยเออร์ มีดีกรีจากการเป็นส่วนสำคัญในการพาทีมชาติเยอรมันคว้าแชมป์โลก และเป็นผู้รักษาประตูที่เก่งที่สุดในโลก และเป็นคนที่ทั่วโลกให้การสนับสนุนว่าสมควรจะได้รับรางวัลบ้าง ไม่ใช่เอะอะก็มอบให้แต่โรนัลโด้และเมสซี่ ซึ่งสลับกันได้รางวัลมาตลอด 7 ปีที่ผ่านมา

แต่ที่สุดแล้วเป็น โรนัลโด้ ที่ได้รับการสนับสนุนอย่างท่วมถ้วนในการโหวตจาก 182 กัปตันทีม, 181 โค้ช และ 181 ตัวแทนผู้สื่อข่าวชาติสมาชิกฟีฟ่า โดยได้ถึง 37.66% ชนะขาด เมสซี่ ที่ได้ 15.76% และ นอยเออร์ ที่ได้ 15.72% ตามลำดับ

เป็นรางวัลบัลลงดอร์ สมัยที่ 3 ในชีวิตของ CR7 และเป็นการคว้ารางวัลสมัยที่ 2 ติดต่อกันจากปีที่แล้ว (2008,2013,2014) ทำให้ได้รับรางวัลเท่าตำนานอย่าง มิเชล พลาตินี่, โยฮัน ครอยฟ์ และ มาร์โก ฟาน บาสเทน และขยับใกล้ ลิโอเนล เมสซี่ คู่ปรับตลอดกาลเหลือห่างกันแค่สมัยเดียวเท่านั้น

ความสำเร็จของโรนัลโด้ เกิดจากความพยายามที่ไร้ที่สิ้นสุด แม้จะถูกปรามาสว่าไม่อาจเทียบชั้นพรสวรรค์กับคนที่เกิดมาเพื่อเป็น “ราชาลูกหนัง” อย่าง เมสซี่ได้ (เคยแม้กระทั่งคิดว่าโดนฟีฟ่าปล้นบัลลงดอร์ไปให้เมสซี่ ในปี 2012 ด้วย) แต่ไม่เคยยอมแพ้แม้แต่น้อย

ก่อนกลับมาเป็นผู้ชนะอย่างสมภาคภูมิในเวลานี้ ในฐานะ “นักฟุตบอลหมายเลขหนึ่งของโลก”

โรนัลโด้: มันยังคงเป็นสิ่งที่พิเศษเสมอ

“เมื่อได้ยินการขานชื่อ มันเป็นช่วงเวลาที่เกิดความรู้สึกที่ซับซ้อนมาก มันจะมีความรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที ต่อให้ผมจะมาที่นี่เป็นปีที่ 8 แล้วก็ตาม มันก็ยังคงทำให้เกิดความรู้สึกที่รุนแรงเสมอ”

“ผมรู้ว่าผมต้องพยายามแค่ไหนกว่าจะได้รับรางวัลนี้ และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้ผมยังคงมีความรู้สึกมากมายที่ล้นเอ่อ ไม่ว่าผมจะได้รับรางวัลกี่ครั้งก็ตาม ผมหวังว่าผมจะได้รับรางวัลเช่นนี้ต่อไปในอีกหลายปีข้างหน้า”

ทำเนียบบัลลงดอร์ (10 ปีหลังสุด)
2014 - คริสติอาโน่ โรนัลโด้ (โปรตุเกส)
2013 - คริสติอาโน่ โรนัลโด้ (โปรตุเกส)
2012 - ลิโอเนล เมสซี่ (อาร์เจนติน่า)
2011 - ลิโอเนล เมสซี่ (อาร์เจนติน่า)
2010 - ลิโอเนล เมสซี่ (อาร์เจนติน่า)
2009 - ลิโอเนล เมสซี่ (อาร์เจนติน่า)
2008 - คริสติอาโน่ โรนัลโด้ (โปรตุเกส)
2007 - กาก้า (บราซิล)
2006 - ฟาบิโอ คันนาวาโร่ (อิตาลี)
2005 - โรนัลดินโญ่ (บราซิล)
2004 - อังเดร เชฟเชนโก้ (ยูเครน)

ทำเนียบอันดับผู้ที่ได้รับรางวัลบัลลงดอร์
4 สมัย - ลิโอเนล เมสซี่ (2009, 2010, 2011,2012 *ฟีฟ่า บัลลงดอร์ 3 สมัย)
3 สมัย - คริสติอาโน่ โรนัลโด้ (2008, 2013,2014 *ฟีฟ่า บัลลงดอร์ 2 สมัย)
           - โยฮัน ครอยฟ์ (1971, 1973, 1974)
           - มิเชล พลาตินี่ (1983, 1984, 1985)
           - มาร์โก ฟาน บาสเท่น (1988, 1989, 1992)
2 สมัย - อัลเฟรโด ดิ สเตฟาโน่ (1957, 1959)
           - ฟรานซ์ เบ็คเคนเบาเออร์ (1972, 1976)
           - เควิน คีแกน (1978, 1979)
           - คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ (1980, 1981)
           - โรนัลโด้ (1997, 2002)

สรุปการประกาศรางวัลอื่นๆ

รางวัลนักฟุตบอลหญิงยอดเยี่ยม
นาดีน เคสส์เลอร์ (เยอรมัน)


แข้งสาวทีมชาติเยอรมัน วัย 26 ปี ซึ่งเป็นกัปตันทีมสโมสรโวล์ฟสบวร์ก ทีมแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หญิง คว้ารางวัลนักฟุตบอลหญิงยอดเยี่ยมแห่งปีมาครองต่อจาก นาดีน แองเจอเรอร์ แข้งสาวชาวเยอรมันเจ้าของรางวัลเมื่อปีกลาย เฉือน “เปเล่หญิง” มาร์ทา ตำนานลูกหนังชาวบราซิล และ แอบบี้ แวมบัค ดาวซัลโวตลอดกาลทีมชาติสหรัฐฯ ได้สำเร็จ

ผลงานในปี 2014 ของเคสส์เลอร์ โดดเด่นอย่างมากกับโวล์ฟสบวร์ก หลังนำทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีกา, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมหญิงแห่งปีของยูฟ่า และพาเยอรมัน เข้ารอบฟุตบอลโลกหญิง 2015 ที่ประเทศแคนาดาได้

รางวัลโค้ชยอดเยี่ยมทีมชาย
โยอัคคิม เลิฟ (เยอรมัน)


โยอัคคิม เลิฟ สมควรได้รับรางวัลโค้ชยอดเยี่ยมประจำปีนี้อย่างไม่มีข้อโต้แย้ง หลังสามารถพาทีม “อินทรีเหล็ก” เยอรมัน ผงาดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2014 ได้ถึงถิ่นบราซิล โดยตลอดรายการทำผลงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะในรอบรองชนะเลิศที่ช็อกวงการลูกหนังโลก และแทบฆ่าชาวบราซิลให้ตายทั้งเป็น เมื่อไล่ถลุงเจ้าภาพ “แซมบ้า” ชนิดอายถึงรุ่นหลานกับสกอร์ 7-1

ส่วนอีก 2 คนที่ได้รับการเสนอชื่อคือ คาร์โล อันเชล็อตติ กับผลงานพาเรอัล มาดริด คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รวมถึงแชมป์สโมสรโลก และดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ที่พาแอตเลติโก มาดริด คว้าแชมป์ลา ลีกา มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่

รางวัลโค้ชยอดเยี่ยมทีมหญิง
ราล์ฟ เคลเลอร์มันน์ (เยอรมัน)


ราล์ฟ เคลเลอร์มันน์ ได้รับรางวัลโค้ชทีมหญิงยอดเยี่ยมแห่งปี จากผลงานการพาโวล์ฟสบวร์ก ป้องกันแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จในฤดูกาลนี้ รวมถึงการพาทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีกาได้ในนัดสุดท้ายของฤดูกาล ทำให้เยอรมัน ได้รับรางวัลโค้ชยอดเยี่ยมทั้งชายและหญิง สะท้อนถึงความสำเร็จของวงการฟุตบอลเมืองเบียร์ได้เป็นอย่างดี

รางวัลทีมยอดเยี่ยม FIFA FIFPro  World XI
รางวัลทีมฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำปี 2014 ซึ่งได้รับการโหวตจากผู้เล่นฟุตบอลอาชีพจำนวนกว่า 20,000 คน

ผู้รักษาประตู: มานูเอล นอยเออร์ (เยอรมัน, บาเยิร์น มิวนิค)
กองหลัง: เซร์คิโอ รามอส (สเปน, เรอัล มาดริด), ดาวิด ลุยซ์ (บราซิล, ปารีส แซงต์-แชร์แมง), ติอาโก้ ซิลวา (บราซิล, ปารีส แซงต์-แชร์แมง), ฟิลิปป์ ลาห์ม (เยอรมัน, บาเยิร์น มิวนิค)
กองกลาง: อันเดรส อิเนียสต้า (สเปน, บาร์เซโลน่า), โทนี่ โครส (เยอรมัน, เรอัล มาดริด), อังเคล ดิ มาเรีย (อาร์เจนติน่า, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
กองหน้า: ลิโอเนล เมสซี่ (อาร์เจนติน่า, บาร์เซโลน่า), คริสติอาโน่ โรนัลโด้ (โปรตุเกส, เรอัล มาดริด), อาร์เยน ร็อบเบน (ฮอลแลนด์, บาเยิร์น มิวนิค)

รางวัลปุสกัส อวอร์ด
ฮาเมส โรดริเกวซ (โคลอมเบีย)


รางวัลประตูที่สวยที่สุดในรอบปี โหวตโดยแฟนฟุตบอลทั่วโลก ซึ่งผู้ที่ได้รับรางวัลคือ ฮาเมส โรดริเกวซ  สตาร์ทีมชาติโคลอมเบีย และเรอัล มาดริด จากประตูสุดสวยที่ทำได้ในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2014 ในนัดที่พบกับอุรุกวัย

ส่วนอีก 2 ประตูที่ไม่ได้รับการโหวตคือ ลูกยิงของแม่มดสาว สเตฟานี โรช ชาวไอร์แลนด์เหนือ (ซึ่งเป็นประตูที่คนในโลกอินเตอร์เน็ตพยายามเชียร์กันมาก) และลูกโหม่ง Flying Dutchman ของโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ในเกมที่ฮอลแลนด์ ถล่มทีมชาติสเปน 5-1 ในฟุตบอลโลกรอบแรก

รางวัล Presidential Award
ฮิโรชิ คางาวะ (ญี่ปุ่น)


ในวัย 89 ปี ฮิโรชิ คางาวะ คือผู้สื่อข่าวที่อาวุโสที่สุดที่ร่วมเดินทางมาชมฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล โดยคุณปู่ฮิโรชิ ที่เกิดเมื่อปี 1924 (ก่อนฟุตบอลโลกสมัยแรก!) เคยเป็นนักฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่นมาก่อน ก่อนจะมาเอาดีทางการเป็นนักหนังสือพิมพ์ โดยเริ่มตีพิมพ์ผลงานในปี 1951 และได้โอกาสทำข่าวฟุตบอลโลกครั้งแรกในปี 1974 ที่ประเทศเยอรมันตะวันตก และยังคงเขียนบทความสม่ำเสมอในเวลานี้

รางวัล FIFA Fair Play Award
เหล่าอาสาสมัคร


รางวัล “ฟีฟ่า แฟร์ เพลย์” ในปีนี้ ฟีฟ่าอุทิศให้แก่เหล่าอาสาสมัครจำนวนนับหมื่นคนที่มีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล ซึ่งอาสาสมัครเหล่านี้มาจากทั่วทุกมุมโลก และเต็มใจที่จะมีส่วนช่วยให้ฟุตบอลโลกลุล่วงด้วยดี ซึ่งพวกเขาทำได้อย่างน่าประทับใจ

เนื้อหาโดย Hot Score

hot-score

เรื่องล่าสุด

FIFA Ballon d’Or 2014 : ชัยชนะที่สมบูรณ์แบบของ CR7FIFA Ballon d’Or 2014 : ชัยชนะที่สมบูรณ์แบบของ CR7 FIFA Ballon d’Or 2014 : ชัยชนะที่สมบูรณ์แบบของ CR7

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น